วันพุธที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

การให้คุณค่า

การให้คุณค่า

ตามที่จำได้ว่ามีหมอคริสเตียนท่านหนึ่งชื่อ หมอชไวเดอร์ ท่านกำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ นักเทศน์เดินมาเห็นเพราะหมอเป็นสมาชิกคริสตจักรของท่านนักเทศน์ถาม หมอทำอะไรอยู่ หมอตอบรดน้ำต้นไม้ นักเทศน์ถามต่อทันที เดี๋ยวพระเยซูเสด็จกลับมารับหมอจะทำอะไร? หมอตอบ พระเยซูมาก็เป็นเรื่องของพระองค์ ผมก็จะรดน้ำต้นไม้ต่อ คุณได้รับบทเรียนจากเรื่องนั้อย่างไร?

การให้คุณค่าสิ่งที่ทำ หรือรู้เป้าหมายสิ่งที่กำลังรับผิดชอบ เราทุกคนต่างมีภาระหน้าที่รับผิดชอบ แต่เราต้องมั่นใจว่า สิ่งที่เราทำนั้น เรารู้ว่ามีคุณค่า มีเป้าหมาย จุดประสงค์แม้พระคริสต์เสด็จมาเมื่อใหร่ เราก็ยังคงทำต่อไปเพราะเราทำตามที่พระองค์ทรงกำหนด หรือเป็นหน้าที่ในชีวิตประจำวัน เพราะเรารู้คุณค่า และมีเป้าหมาย ไม่ใช่ไม่รู้เป้าหมาย ไม่รู้คุณค่า

ดังพระองค์ทรงยกเรื่องคำอุปมาที่บ่าวบอกกับนายว่า ข้าพเจ้าทำตามหน้าที่ของข้าพเจ้าสมบูรณ์ครบถ้วนแล้ว และเป็นบ่าวไม่มีบุญคุณต่อนาย เปาโลบอกว่าข้าพเจ้าจะไม่ชกลม ดังนี้อย่าให้เรา เบื่อตัดพ้อ ในสิ่งที่ต้องรับผิดชอบอยู่ แม้ว่าจะไม่ดีรับความเป็นธรรมเพราะความผิดของผู้อื่นหรือใคร ปฏิญาณเลยว่าจะไม่ให้ ใจหรือปาก ทำบาป ผิดพลาด เพราะตอบโต้คนที่ทำผิดต่อเราแม้เราถูก ในสายพระเนตร เราอาจไม่เป็นที่พอพระทัย การเจิมก็จะสิ้นสุดลง เพราะเราตามใจเนื้อหนัง ของเรา

หลายครั้งเรามักจะถอดใจ หรือบ่น หรืออ่อนระอา ผมอยากท้าทายว่าหากต่อหน้าพระคริสต์ พระองค์อาจถามเราว่า เจ้าอดทนจนถึงที่สุดแล้วหรือไม่ เรารักเขามากจนถึงที่สุดหรือไม่ เจ้าให้โอกาสเขามากที่สุดหรือไม่

เราจะตอบว่าอย่างไร? นี่เอง เราต้องปฎิญาณกับตัวเองว่า จนถึงที่สุด จะป็นคำที่เราให้การกับพระเจ้าว่า ถึงที่สุดแล้วพระเจ้าข้า

ทั้งสองตอนนี้เกี่ยวกันอย่างไร เพราะผมกำลังบอกว่าสิ่งที่เผชิญอยู่นี้ เราสามารถรู้คุณค่า และทำอย่างมีเป้าหมาย และจะรัก จะทนจนถึงที่สุด หากวันพิพากษา เราจะบอกกับพระองค์และพระองค์ก็เห็นว่า เรารัก จนถึงที่สุดจริงๆ เพราะ พระเจ้าทรงรักผู้ที่รู้จักพระองค์ และพระองค์จะให้เราอดทนอีกทั้งจะให้เรามีช่องทางหลีกเลี่ยงได้
(1คร8:3,8:13)

เรียบเรียง โดย เจริญ ยธิกุล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น