วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554

ไม่ใด้ดั่งใจต้องอดทนอย่างเดียว

4 สถานการณ์ ทดสอบความอดทนของคุณ
1) การขัดจังหวะ
แผน การที่ดีที่สุดของเรามักถูกขัดจังหวะบ่อยๆ เช่น พอนั่งลงรับประทานอาหารเย็นโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา, กำลังทำงานให้ทันกำหนดเส้นตาย จู่ๆก็มีแขกมาเยือน หรือถูกขัดจังหวะขณะที่กำลังพูด .....
คำถามคือ คุณรับมือกับสิ่งที่เข้ามาขัดจังหวะชีวิตคุณอย่างไร

2) ความไม่สะดวกสบาย
คุณจัดการกับความไม่สะดวกสบายทั้งหลายในชีวิตอย่างไร ?
เรา เป็นชนรุ่น "เดี๋ยวนี้" ทุกสิ่งต้องรวดเร็ว สำเร็จรูป ด่วน และสะดวกสบาย เราไมชอบการรอคอย อยากได้ข้อมูลเดี๋ยวนี้ เร่งรีบตลอดเวลา รู้สึกถูกเอาเปรียบและไม่สะดวก มีงานต้องทำแต่ดูเหมือนว่าคุณเป็นคนเดียวที่รู้ว่าต้องทำอะไร
คำถามคือ คุณยังอดทนได้มั้ย หากมีความไม่สะดวกสบายเกิดขึ้น

3) ความน่ารำคาญ
สิ่ง เล็กๆ น้อยๆ ที่คอยรบกวนคุณ ไม่ว่าจะเป็น รถติด เสียงโทรศัพท์ในโรงภาพยนต์ เสียงรบกวนจากสุนัขเพื่อนบ้าน การวางของไม่ถูกที่ของลูกและสามี เสียงคนนั่งนินทากันวิพากษ์วิจารณ์กัน อยู่ข้างๆโต๊ะ .... อื่นๆ อีกมากมาย
สำหรับเราหลายๆคน ความรำคาญใจที่สุดในชีวิตของเราก็คือ "คน"
เรา ทุกคนต่างเจอะเจอคนน่ารำคาญ หรือคนที่ทำให้เราอารมณ์ไม่ดีด้วยกันทั้งนั้น ... หอยมุขต้องทนรับความรำคาญจากเมล็ดทราย กระทั่งเปลี่ยนมันเป็นไข่มุก ... การหัดตอบสนองต่อความน่ารำคาญอย่างสร้างสรรค์ ช่วยให้เราสามารถเปลี่ยนเราให้กลายเป็นไข่มุกงามได้

4) ความเฉื่อยชา
คุณอดทนต่อความเฉื่อยชา(ของคนอื่น) ได้มากแค่ไหน
- เข้าแถวรอจ่ายเงินในช่องที่พนักงานทำงานช้า
- หงุดหงิดเมื่อไฟเขียวแล้วรถคนหน้าไม่ยอมออกตัว (แค่ 3 วินาทีเองนะ)
- ....
"คนที่เร่งเท้าหนัก ก็มักผิดพลาด"
นักวิจัยทางการแพทย์พบว่า 90% ของผู้ที่หัวใจวาย ล้วนมีบุคลิกภาพที่รีบเร่ง ใจร้อน และนี่แหละเป็นเหตุที่สร้างความเดือนร้อนให้เค้า

4 วิธี ในการหัดเป็นคนมีความอดทน
1) สร้างมุมมองใหม่
หาวิธีมองสถานการณ์ หรือบุคคลนั้นๆ ที่กำลังสร้างปัญหาให้คุณในมุมมองใหม่
ความอดทนเริ่มจากการเปลี่ยนวิธีที่คุณมองอะไรบางอย่างเสียใหม่
เวลาที่เราไม่อดทน เรามีมุมมองจำกัด!
- ทุกอย่างที่เห็นก็มีแต่ตัวเอง
- ความจำเป็น ของเรา
- ความปรารถณา ของเรา
- เป้าหมาย ของเรา
- ความอยาก ของเรา
- ตารางเวลา ของเรา
- ... ของเรา และ ของเรา และคนอื่นกำลังมาทำให้ชีวิตเรายุ่งเหยิง !!!
หัดมองอะไรๆ จากมุมมองของคนอื่นบ้าง
"บุคคลที่โกรธช้าก็มีความเข้าใจมาก แต่บุคคลที่โมโหเร็วก็ยกย่องความโง่" สุภาษิต 14:29

2) หัดมีอารมณ์ขันเสียบ้าง
"ใจร่าเริงเป็นยาอย่างดี" สุภาษิต 17:22
ไม่ต้องพูดอะไรกันมาก เพราะคุณมี สองทางเลือกคือ หัวเราะ หรือ หงุดหงิดฉุนเฉียว

3) หยั่งความรักให้ลึกซึ้ง
"ความรักนั้นก็อดทนนาน" 1คร.13:4
"คือจงมีใจถ่อมลงทุกอย่าง และใจอ่อนสุภาพอดทนนาน และอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก" อฟ.4:2
มันแปลกลับกันได้หรือไม่ว่า ถ้าเราไม่อดทน ก็คือไม่มีความรัก !!!

4) พึ่งพระเจ้า
ความอดทนไม่ใช่แค่เรื่องพลังความตั้งใจของคนเท่านั้น แต่เป็นผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์
ความ อดทนเป็นความเชื่อ(ศรัทธา) รูปแบบหนึ่งที่บ่งบอกว่า "เราวางใจพระเจ้า เราเชื่อว่าพระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าปัญหา และเราเชื่อว่า มือของพระเจ้าอยู่เหนือเหตุการณ์ที่คอยรังคราญเรา และพระองค์สามารถใช้เหตุการณ์นั้นๆ เพื่อผลดีในชีวิตเราได้ "
ความเชื่อช่วยให้เรามองชีวิตจากมุมมองของพระเจ้า
ความเชื่อช่วยให้เราพูดได้ว่า "พระองค์อยากให้ลูกเรียนรู้อะไรจากสถานการณ์นี้" ไม่ใช่พูดว่า "ทำไมต้องเกิดเรื่องนี้ขึ้นด้วย"
การรอคอยที่ยากที่สุดคือ รอคอยพระเจ้าในขณะที่เรากำลังรีบ แต่พระองค์ไม่รีบ
ประเด็น ก็คือ พระเจ้าไม่เคยมาสาย เวลาของพระเจ้านั้นไร้ที่ติ พระองค์ไม่ได้ทำตามตารางเวลาของเรา แต่พระองค์มาทันเวลาเสมอ พระองค์ต้องการให้เราวางใจพระองค์และรอคอยพระองค์
"จงสงบอยู่ต่อพระเจ้า และเพียรรอคอยพระองค์อยู่" สดด.37:17

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น