วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เราคือเยซูมารายงานตัว

เราคือเยซู มารายงานตัวในวันนี้

ศิษยาภิบาลเรียนบทเรียนหนึ่งด้วยความรักจากชายแปลกหน้าผู้มาเยือนคริสตจักร วันหนึ่งศิษยาภิบาลเดินทางผ่านคริสตจักรของเขาเองในตอนเที่ยง จึงคิดจะแวะดูสักนิดว่าจะมีใครมาอธิษฐานในคริสตจักรไหม ทันได้นั้นเอง ประตูหลังก็เปิดออก พร้อมกับชายคนหนึ่งเดินเข้ามาตามทางเดิน ศิษยาภิบาลหน้านิ่วถมึงทึงด้วยความไม่พอใจ ชายคนนี้ไม่ได้โกนหนวดเครา เสื้อเชิ้ตออกจะเก่าซอมซ่อ เสื้อนอกก็ขาดวิ่นและหลุดลุ่ย เขาคุกเข่าลง และก้มศีรษะ จากนั้นก็ลุกขึ้นและเดินจากไป หลายวันต่อมา ตอนเที่ยงหมอนี่ก็โผล่มาที่คริสตจักรอีกเป็นประจำ ในแต่ละครั้งเขาจะมาคุกเข่าอยู่สักครู่หนึ่ง มีกล่องอาหารกลางวันบนหน้าตัก แน่นอน! ศิษยาภิบาลตั้งข้อระแวงว่า หมอนี่คงเป็นพวกหัวขโมยแน่ๆ!!!
เขาตัดสินใจเข้าไปคุยกับชายผู้นี้ “คุณมาทำอะไรที่นี่หรือ?” ชายแก่จึงเล่าให้ฟังว่า เขาทำงานที่โรงงานซึ่งตั้งอยู่บนถนนสายนี้ มีเวลาพักเที่ยงครึ่งชั่วโมง และเวลาเที่ยงเป็นเวลาอธิษฐาน เพื่อเขาจะได้รับเรี่ยวแรงและฤทธิ์เดช
“ ผมอยู่ได้เพียงชั่วครู่เพราะโรงงานอยู่ไกลมาก เมื่อผมคุกเข่าลงและพูดกับองค์พระผู้เป็นเจ้า ผมจะบอกอย่างนี้ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ผมเข้ามาอีกครั้ง เพื่อจะบอกพระองค์ ว่าผมมีความสุขมากแค่ไหนตั้งแต่วันที่เราได้รู้จักกัน และพระองค์ทรงยกโทษบาปของผม ผมอธิษฐานไม่ค่อยเก่งนัก แต่ผมคิดถึงพระองค์ทุกวัน พระเยซู… ผม-จิม มารายงานตัววันนี้ ”ศิษยาภิบาลรู้สึกกระอักกระอวนกับความเขลาของตน จึงบอกจิมไปว่า เขาสามารถมาที่นี่และอธิษฐานได้ทุกเวลา ครั้นได้เวลาจากกัน จิมส่งยิ้มให้และกล่าว “ขอบคุณ” พร้อมกับเร่งรีบไปที่ประตู ศิษยาภิบาลคุกเข่าตรงแท่นข้างหน้า อย่างที่เขาไม่เคยทำมาก่อน หัวใจที่เย็นชาของเขาหลอมละลายและอบอุ่นขึ้นด้วย ความรัก …เขาได้พบพระเยซูที่นั่น ในขณะที่น้ำตาไหลพรากอยู่นั้น ภายในหัวใจของเขาได้อธิษฐานตามอย่างเฒ่าจิมที่ว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้า ผมเข้ามาอีกครั้ง เพื่อจะบอกพระองค์ว่า ผมมีความสุขแค่ไหนตั้งแต่วันที่เราได้รู้จักกันและพระองค์ทรงยกโทษบาปของผม ผมอธิษฐานไม่ค่อยเก่งนัก แต่ผมคิดถึงพระองค์ทุกวัน พระเยซู…นี่ผมเอง มารายงานตัววันนี้" บ่ายวันหนึ่ง ศิษยาภิบาลเริ่มสังเกตว่าจิมไม่ได้มาเหมือนเคย และเวลาผ่านไปอีกหลายวัน โดยที่จิมไม่ได้ปรากฏตัว เขาเริ่มรู้สึกวิตก ที่โรงงาน ศิษยาภิบาลมาถามหาชายชราชื่อ จิม และได้ความว่า เขาป่วย คนที่โรงงานต่างก็เป็นห่วงกับอาการของจิม แต่เขากลับทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ ช่วงสัปดาห์ที่จิมอยู่ด้วยนั้น นำการเปลี่ยนแปลงมาอย่างถ้วนทั่ว รอยยิ้มของเขากับความปิติยินดีที่เป็นเหมือนโรคระบาด ผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไปคือรางวัลใหญ่ของเขา หัวหน้าพยาบาลไม่อาจเข้าใจได้ว่า เหตุใดจิมจึงดีใจอยู่เสมอ ทั้งที่ไม่มีดอกไม้เยี่ยมไข้ โทรศัพท์ หรือบัตรอวยพร ไม่มีใครสักคนมาเยี่ยม ศิษยาภิบาลยืนอยู่ข้างเตียงเขา ฟังเสียงรำพันของพยาบาลผู้เป็นห่วง โอ้…จิม ไม่มีเพื่อนมาแสดงความห่วงใย ไม่มีใครที่เขาจะพึ่งพิงได้ แต่น่าแปลกใจ
เฒ่าจิมอธิบายขึ้นด้วยรอยยิ้มละไมของชัยชนะ " คุณพยาบาลไม่เข้าใจ เธอไม่รู้หรอกว่า ในครู่ใหญ่ๆ ของทุกเที่ยงวัน พระองค์อยู่ที่นี่ เพื่อนรักของผม คุณเห็นไหมว่าพระองค์กำลังนั่งอยู่ ทรงกุมมือผมไว้ โน้มเข้ามาใกล้และบอกว่า “เราเข้ามาอีกครั้ง…จิม …เพื่อบอกเจ้าว่าเรามีความสุขมากแค่ไหนตั้งแต่วันที่เราได้รู้จักกัน และเรายกโทษบาปของเจ้า เรารักที่จะฟังเจ้าอธิษฐานเสมอ และเราคิดถึงเจ้าทุกวัน จิม…เราคือเยซู มารายงานตัวในวันนี้” "

บาปทางตา

บาปทางตา โดย อ.ดารณี ประดับชนานุรัตน์
I have made a covenant with my eyes; how then could I look upon a virgin? (Job 31:1) ข้าได้กระทำพันธสัญญากับนัยน์ตาของข้า แล้วข้าจะมองหญิงพรหมจารีได้อย่างไร? (โยบ 31:1)

เย็นวันหนึ่งขณะที่ข้าพเจ้ากำลังพักผ่อนอยู่บนชั้นสอง ลูกสาวคนเล็กวิ่งขึ้นมาหาข้าพเจ้าหน้าตาตื่นบอกว่า มีคนที่ไม่รู้จักส่งภาพลามกมาให้ทางอีเมล์ เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ขณะที่ลูกสาวกำลังเล่นอินเตอร์เน็ตและเปิดเข้าไปเช็คจดหมายที่ hotmail ก็เห็นจดหมายเข้าหลายฉบับ มีทั้งของเพื่อนและของคนที่ไม่รู้จักซึ่งมักจะเป็นประเภท junk mail (คือจดหมายโฆษณาหลอกล่อให้ซื้อสินค้าต่างๆ) เมื่อลูกสาวลองคลิ๊กเข้าไปดู เท่านั้นแหละได้เรื่องเชียว ภาพน่าเกลียดหลายภาพปรากฏขึ้นทันทีบนจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งล้วนเป็นภาพลามกอนาจาร ลูกสาวคนเล็กตกใจทำอะไรไม่ถูก ร้องเรียกให้พี่สาวซึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆมาช่วย ทั้งสองคนจึงช่วยกันคลิ๊กปิดรูปทั้งหมด นี่เป็นครั้งแรกที่ลูกสาวมีประสบการณ์เลวร้ายอย่างนี้ บางครั้งความบาปตามล่าเราและหาช่องทางเข้าถึงตัวเราในรูปแบบต่างๆ แม้ว่าเราจะพยายามระมัดระวังอย่างเต็มที่แล้วที่จะไม่ไปข้องเกี่ยวกับมันก็ตาม
ภาพลามกอนาจารทางอินเตอร์เน็ตนั้นถือเป็นความบาปรูปแบบใหม่ที่พยายามเข้าถึงตัวเราและกำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในปัจจุบัน หลายคนอาจวิ่งเข้าไปหามันเอง แต่หลายคนแม้อยู่เฉยๆหรือพยายามหนีมันแล้ว ก็ยังอาจถูกสิ่งหล่านี้ตามมารังควาญ แรกๆที่เราพบเจอเราอาจตกใจกลัว แต่หากไม่ระวังและรีบหาทางป้องกัน ความตื่นกลัวจะหายไป ความอยากรู้อยากเห็นจะเข้ามาแทนที่ และในที่สุดเราก็จะเป็นฝ่ายหาทางเข้าไปหามัน และถูกมันเกาะกุมชีวิตจนตกเป็นทาสของมันทั้งกาย ใจ และวิญญาณ ทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นที่อวัยวะเล็กๆแต่สำคัญอย่างยิ่งนั่นก็คือ “นัยน์ตา” มีคนกล่าวว่า “ตา” เป็นหน้าต่างของหัวใจ ดังนั้น ถ้าหากเราเปิดหน้าต่างนี้ออกรับสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ สิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน สิ่งที่ชั่ว สิ่งเหล่านี้จะเข้ามาเกาะกุมจิตใจ และทะลุทะลวงเข้าไปกัดกินถึงจิตวิญญาณ ตัวเลขและสถิติผู้เสพย์ติดภาพอนาจารทางอินเตอร์เน็ต จากการสำรวจในปัจจุบันพบว่า มีชาวอเมริกันถึง 25 ล้านคนที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเข้าไปดูภาพลามกอนาจาร และถ้านับรวมเว็บไซต์ทั่วไปที่ส่อเค้าไปในทางอนาจารแล้ว ตัวเลขจะพุ่งสูงถึง 40 ล้านคนเลยทีเดียว เราอาจยังไม่รู้จำนวนที่แน่นอนของคนไทยที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเว็บไซต์ประเภทนี้ แต่เชื่อว่ามีจำนวนไม่น้อย และนับวันก็จะเพิ่มจำนวนมากขึ้นและรวดเร็วจนน่ากลัว ถ้าหากคุณคิดว่า มีแต่คนไม่เป็นคริสเตียนเข้าไปดูภาพอนาจารทางอินเตอร์เน็ต คุณก็กำลังเข้าใจผิด ปัจจุบันมีคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นคริสเตียนทั้งที่เป็นฆราวาสและผู้รับใช้ ตกอยู่ในความบาปนี้จำนวนไม่น้อยทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ แม้แต่คริสเตียนที่มีวินัยในตัวเองสูงก็ยังพลาดเข้าไปติดบ่วงการทดลองนี้ได้หากไม่ระวังพอ
สตีฟ (นามสมมติ) เป็นผู้ช่วยศิษยาภิบาลที่โบสถ์แห่งหนึ่งในรัฐโอไฮโอ เขาเป็นผู้ก่อตั้งพันธกิจใหม่ๆหลายแห่งและยังได้รับเชิญเป็นวิทยากรค่ายหนุ่มสาวอยู่เสมอ มีอยู่วันหนึ่งเมื่อปลายปีที่แล้ว สตีฟแวะไปเชียร์ฟุตบอลร่วมกับเพื่อนบ้านหลายคนที่ไม่เป็นคริสเตียน โดยใช้สถานที่ที่บ้านของเพื่อนคนหนึ่ง ระหว่างที่ดูฟุตบอลกันอยู่นั้น เพื่อนบ้านของสตีฟก็พูดขึ้นเป็นเชิงตลกว่า การที่สตีฟมาแวะที่บ้านเขา ทำให้เขาต้องรีบเอานิตยสารเพลย์บอย ภาพโป๊ และพวกแค็ตตาล็อคชุดชั้นในวาบหวิวของผู้หญิงที่สะสมอยู่ไปซ่อนให้พ้นสายตาของสตีฟ เพราะไม่อยากทำให้ผู้ช่วย ศบ.ผู้บริสุทธิ์ผุดผ่องคนนี้รู้สึกอึดอัดใจ แต่เพื่อนบ้านของสตีฟหารู้ไม่ว่า ตัวสตีฟเองก็แอบสะสมนิตยสารโป๊ วีดิโอโป๊ รายชื่อเว็บไซต์ที่มีภาพลามกอนาจาร รวมไปถึงเบอร์โทรศัพท์ของผู้ให้บริการทางเพศทางโทรศัพท์ด้วย สตีฟไม่ใช่ผู้รับใช้รายเดียวที่มีพฤติกรรมแบบนี้ จากการสำรวจพบตัวเลขที่น่าตกใจว่า ศิษยาภิบาลในอเมริกาทุกหนึ่งในเจ็ดคน เคยแอบดูภาพลามกอนาจาร และการสำรวจผู้อ่านนิตยสาร “Christianity Today” ก็พบว่า ผู้อ่านที่เป็นคริสเตียนฆราวาส มีถึง 1 ใน 3 ที่เข้าไปดูเว็บไซต์อนาจาร และที่น่าแปลกใจยิ่งกว่านั้นก็คือ ผู้อ่านที่เป็นคริสเตียนผู้รับใช้ มีจำนวนถึง 1 ใน 3 เช่นกันที่ยอมรับว่าตัวเองก็เข้าไปดูเว็บไซต์ประเภทนี้ด้วย การศึกษาวิจัยยังพบว่า ไม่ใช่ผู้ชายเท่านั้นที่มีปัญหานี้ ผู้หญิงในวัย 30-35 ซึ่งอยู่ในวัยที่การงานอาชีพของสามีกำลังรุ่งโรจน์และต้องเดินทางไกลเป็นเวลานานบ่อยๆ ทำให้พวกเธอมีเวลาในการเล่นอินเตอร์เน็ตและเสพย์ติดภาพอนาจาร ที่แย่กว่านั้นคือ จากตัวเลขรายงานการวิจัยที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษเมื่อปีที่แล้ว พบว่า เด็กจำนวนมากที่นั่นกำลังเสพย์ติดภาพลามกอนาจาร ทุก 9 ใน 10 คนของเด็กที่มีอายุระหว่าง 11-16 ปี ล้วนเข้าไปดูเว็บไซต์ลามกอนาจารกันมาแล้วทั้งสิ้น

อันตรายของการเสพย์ภาพลามกอนาจาร
o เป็นมะเร็งร้ายที่ทำลายคุณค่าทางสังคมของมนุษย์ และส่งผลเลวร้ายติดตามมาอีกหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการล่วงเกินเด็กทางเพศ ความรุนแรงทางเพศ การข่มขืน โรคร้ายที่ติดต่อกันทางเพศสัมพันธ์ ฯลฯ
o ครอบครัวถูกทำลาย (จากสถิติพบว่า การหย่าร้าง หรือ การล่วงเกินเด็กทางเพศ หรือ การข่มขืน มักมีจุดเริ่มต้นจากบางคนในครอบครัวเสพย์ติดภาพอนาจาร)
o ชื่อเสียงที่ส่ำสมมานานถูกทำลาย ศักดิ์ศรีที่มีอยู่จะไม่เหลือเมื่อคู่สมรส ลูก และเพื่อนๆรับทราบสิ่งที่คุณทำ
o ชีวิตและจิตวิญญาณถูกทำลายไม่ช้าก็เร็ว (เคยมีคริสเตียนบางคนเสพย์ภาพอนาจารเมื่อตอนเป็นเด็กอายุ 10 ขวบ สิ่งนั้นฝังรากลึกและส่งผลติดตามเขาไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ เขาเกิดความอยากอีกครั้งเมื่อต้องเดินทางจากครอบครัวไปไกลๆ เขาแอบดูหนังลามกอนาจารทางเคเบิ้ลทีวีในโรงแรมที่เขาพัก และเสพย์ติดอยู่นานถึง 15 ปีกว่าจะสามารถหลุดพ้นมาได้)
o ตกเป็นทาสของมันได้ทุกเพศวัย เสพย์ติดได้กับคนทุกประเภท ไม่เว้นแม้แต่คริสเตียน
o การเงินรั่วไหลจนถึงขั้นเป็นหนี้สิน เพราะเว็บไซต์อนาจารเหล่านี้จะให้คุณชมฟรีในระยะหนึ่งเท่านั้นเพื่อเป็นเหยื่อล่อ หลังจากนั้นถ้าคุณอยากดูอีกคุณจะต้องจ่ายเงินโดยใช้บัตรเครดิต ซึ่งจะทำให้คุณสูญเสียเงินจำนวนมากโดยไม่รู้ตัว
o เมื่อเสพย์แล้วเลิกยาก การเลิกเสพย์เหล้า บุหรี่หรือยาเสพย์ติดที่ว่ายากแล้วยังง่ายกว่าการเลิกเสพย์ภาพลามกอนาจาร เพราะเหล้า บุหรี่ หรือยาเสพย์ติด เป็นสิ่งที่สามารถเลิกโดยผ่านขั้นตอนการถอนยาและการหยุดใช้มัน แต่การเลิกเสพย์ภาพลามกอนาจารนั้นต่างกัน เพราะถึงคุณหยุดใช้หยุดดู แต่ภาพเหล่านั้นจะฝังติดอยู่ในสมองของคุณ มันจะวนเวียนอยู่ในความคิด คุณไม่สามารถลบมันออกได้เหมือนอย่างลบดินสอ ดังนั้นการเสพย์สิ่งเหล่านี้จึงอันตรายมาก และต้องพึ่งกระบวนการบำบัดรักษาในระดับลึก
o สูญเสียเวลาอันมีค่าไปมากมาย ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ หมดเรี่ยวแรง ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ขาดสมาธิ ขาดความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงานและครอบครัว
o กลายเป็นคนเห็นแก่ตัว เพราะคุณจะคิดถึงแต่ตัวเอง คิดถึงแต่ความอยาก ความปรารถนา และความต้องการในตัวคุณ ถ้าคุณจะลองคิดสักนิดว่า ผู้หญิงในภาพเป็นหลานของคุณ เป็นน้องของคุณ หรือลูกสาวของคุณเอง คุณจะรู้สึกละอายใจมาก
o ถ้าคุณยังเป็นโสด มันจะทำลายชีวิตสมรสของคุณในอนาคต เพราะมันทำให้คุณจินตนาการคู่สมรสของคุณในรูปแบบภาพอนาจารที่คุณเคยดู ซึ่งในโลกแห่งความเป็นจริงมันจะไม่เป็นเช่นนั้น คุณจะผิดหวังแน่นอน คู่สมรสในอนาคตของคุณต้องการให้คุณรักและให้เกียรติเขา เขาไม่ต้องการเป็นนักแสดงที่ต้องมาแสดงหรือทำอะไรให้คุณดู
o มันทำให้คุณหลอกตัวเองเสมอว่า การดูภาพโป๊หรือภาพลามกอนาจารเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่คุณมีสิทธิ์หาความเพลิดเพลินได้เพื่อความสุขทางเพศ นี่เป็นคำมุสา พระเจ้าทรงเรียกเราให้ดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์ และทรงเตือนให้ทราบถึงผลร้ายที่จะเกิดขึ้นถ้าเราดำเนินชีวิตที่ตรงกันข้าม (1 ธส.4:3-7; กท.6:7-9) วิธีปกป้องตนเอง คู่สมรส และลูกๆ ให้พ้นจากการเสพย์ภาพอนาจารทางอินเตอร์เน็ต
o ตระหนักไว้เสมอถึงภัยอันตรายที่อินเตอร์เน็ตอาจหยิบยื่นให้ถ้าใช้ผิดทาง การดูภาพลามก อนาจารทางอินเตอร์เน็ตก็คือการล่วงประเวณีกับผู้หญิงหรือผู้ชายในภาพนั้นทางใจ และเป็นการปลุกเร้าราคะตัณหาในตัวเรา ขอให้ตระหนักว่า นี่เป็นบาปที่ใหญ่หลวงและน่าสะพึงกลัวที่เราควรหลีกหนีไปให้ไกลที่สุด
o สร้างป้อมปราการเพื่อสะกัดกั้นการทดลองและปกป้องตัวเราให้พ้นจากบ่วงแร้วนี้ด้วยการ
1.ใช้ซอฟแวร์ที่มีคุณสมบัติในการสะกัดกั้นเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม
2.ติดต่อหน่วยงานผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตที่มีบริการปกป้องผู้ใช้ไม่ให้ถูกรบกวนด้วยเว็บไซต์อนาจาร
3.สร้าง password ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกๆแอบเข้าอินเตอร์เน็ตตามลำพัง
4.ใส่รูปภาพของภรรยา ลูก หรือ คนในครอบครัว หรือแม้แต่ภาพของพระเยซูคริสต์ หรือข้อพระวจนะต่างๆ ไว้บน desktop หรือ screen saver เพื่อเตือนใจ
5.ตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ (ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน) ไว้ในจุดหรือมุมที่คนอื่นสามารถมองเห็นได้เวลาเราเปิดใช้
6.หลีกเลี่ยงการใช้อินเตอร์เน็ตในเวลาดึก หรือในช่วงเวลาที่ทุกคนเข้านอนกันหมด หรือในเวลาที่ไม่มีใครอยู่บ้าน วิธีแก้ไขและบำบัดรักษาผู้เสพย์ติดภาพอนาจารบนอินเตอร์เน็ต
o ต้องยอมรับก่อนว่า ปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาเล็กๆที่คุณสามารถจัดการได้ตามลำพัง อย่าหลอกตัวคุณเองอีกต่อไปโดยการอ้างว่าคุณสามารถควบคุมมันได้
o คนที่เสพย์ติดภาพอนาจารไม่สามารถหลุดพ้นจากการเป็นทาสโดยพึ่งวิธีการของมนุษย์ หรือรับความช่วยเหลือผ่านการให้คำปรึกษาเท่านั้น แต่ต้องพึ่งฤทธิ์อำนาจจากพระเจ้า มนุษย์นั้นยากที่จะเปลี่ยนแปลงมนุษย์ด้วยกัน แต่สำหรับพระเจ้าแล้วทุกสิ่งเป็นไปได้
o อย่าต่อสู้การทดลองนี้ตามลำพัง ขอให้บอกคู่สมรส (ความซื่อสัตย์ต่อกันเป็นเรื่องที่สำคัญมากในชีวิตสมรส) และพี่น้องในพระคริสต์บางคน เพื่อให้พวกเขาอธิษฐานเผื่อและช่วยเหลือคุณในยามที่อ่อนแอ (อ่าน ยากอบ 5:16 และ ปัญญาจารย์ 4:12)
o การบำบัดรักษาผู้เสพย์ติดบางคน อาจถึงขั้นต้องให้หยุดใช้อินเตอร์เน็ตทันที ซึ่งย่อมหมายถึงการเปลี่ยนงาน หรือเปลี่ยนตำแหน่ง ไปทำหน้าที่ที่ไม่ต้องใช้อินเตอร์เน็ต
o การใช้ซอฟแวร์ที่ช่วยสะกัดกั้นเว็บไซต์ลามกก็เป็นวิธีการหนึ่งที่ดีและช่วยได้มาก แม้มันจะไม่สามารถป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม
o สำรวจตัวคุณเองว่า คุณมักตกในการทดลองเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหน เมื่อไหร่ และที่ไหน คุณต้องหาทางจัดการกับมัน ถ้าคุณรู้ว่าคุณมักตกในการทดลองเมื่ออยู่ตามลำพังในห้องส่วนตัวของคุณ ก็ขอให้ย้ายคอมพิวเตอร์ออกจากห้องนั้นไปอยู่ในที่ส่วนกลางที่คนอื่นมองเห็นได้ แต่ถ้าหากคุณพบว่า ปัญหานี้มักเกิดขึ้นตอนดึก ก็ขอให้ใช้ซอฟแวร์ที่สามารถป้องกันไม่ให้คุณเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ในช่วงเวลาดังกล่าว และถ้าหากการทดลองนี้เกิดขึ้นทุกครั้งที่คุณอยู่บ้านคนเดียว ก็ขอให้ติดตั้งตัวล็อคคอมพิวเตอร์ และมอบกุญแจไว้กับคนอื่น และถ้าการทดลองนี้เกิดขึ้นในที่ทำงาน ขอให้บอกหัวหน้าหรือเจ้านายเพื่อหาทางแก้ไข
o ท่องจำพระธรรมบางข้อและฝังพระวจนะนั้นไว้ในใจ เช่น สดุดี 119:9,11; รม.12:1-2; 1 คร.10:13)
o ลบรายชื่อเว็บไซต์อนาจารและภาพลามกต่างๆที่คุณเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์หรือแผ่นดิสต์ออกไปให้หมด และวางพระคัมภีร์ไว้ในจุดที่คุณสามารถมองเห็นได้เสมอเพื่อเตือนใจให้คุณหยิบขึ้นมาอ่าน
o อุทิศตัวในการอ่านพระวจนะและใช้เวลาเข้าเฝ้าพระเจ้ามากขึ้น ลองคิดดูว่าคุณเคยใช้เวลากี่ชั่วโมงในการดูทีวีหรือเล่นอินเตอร์เน็ต ขอให้คุณดึงเวลาเหล่านั้นออกมาบางส่วนเพื่อเข้าเฝ้าพระเจ้าและอ่านพระคัมภีร์ o อย่าปล่อยให้ตัวเองมีเวลาว่างมากเกินไป ถ้าคุณมีเวลาว่างมาก ให้ออกกำลังกาย หรือออกไปพบปะเพื่อนฝูง หรือเยี่ยมเยียนพ่อแม่ญาติพี่น้อง หรือหางานอดิเรกทำ
o ลองทบทวนชีวิตของตัวเองว่า กำลังคบเพื่อนฝูงประเภทไหน ถ้าคุณมีเพื่อนประเภทที่ชอบดูภาพโป๊หรือภาพลามกอนาจาร โอกาสที่คุณจะรอดพ้นจากการทดลองนี้ก็ยาก ขอให้คุณเริ่มต้นอธิษฐานขอพระเจ้าประทานมิตรสหายที่ดีแก่คุณ
o ปรับปรุงแก้ไขความสัมพันธ์ที่คุณกำลังมีกับเพื่อนเพศตรงข้ามทุกคน จงมองพวกเธออย่างให้เกียรติ และมองเธอในฐานะพี่น้องในพระคริสต์ อย่ามองดูพวกเธอเหมือนวัตถุที่ให้ความเพลิดเพลิน หรือเป็นสิ่งที่สนองความต้องการในตัวคุณ
o จงมีความเชื่อมั่นว่า คุณสามารถเอาชนะปัญหานี้ได้ ถ้าหากคุณเคยพยายามแล้วแต่ล้มเหลว ขอให้จำไว้เสมอว่า พระเจ้ารักคุณ และทรงประสงค์ให้คุณลุกขึ้นใหม่ และเดินหน้าสู้ต่อไป….อย่ายอมแพ้ ! (อ่าน สดุดี 46:1-3)
“แต่ส่วนคนที่ผูกพันกับองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็เป็นจิตใจอันเดียวกันกับพระองค์ จงหลีกเลี่ยงเสียจากการล่วงประเวณี บาปอย่างอื่นที่มนุษย์กระทำนั้นเป็นบาปนอกกาย แต่คนที่ล่วงประเวณีนั้นทำผิดต่อร่างกายของตนเอง ท่านไม่รู้หรือว่า ร่างกายของท่านเป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งสถิตอยู่ในท่านซึ่งท่านได้รับจากพระเจ้า ท่านไม่ใช่เจ้าของตัวท่านเอง พระเจ้าได้ทรงซื้อท่านไว้แล้วด้วยราคาสูง เหตุฉะนั้น ท่านจงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าด้วยร่างกายของท่านเถิด” 1 โครินธ์ 6:17-20

จดหมายรักจากพระบิดา

จดหมายรักจากพระบิดา
ข้าพเจ้าได้รับ ?จดหมายรักจากพระบิดา? จากพี่น้องท่านหนึ่งซึ่งเป็นข้อพระคัมภีร์ที่รวบรวมขึ้นเพื่อจุดมุ่งหมายที่จะบอกเล่าถึงเรื่องราวของพระเจ้าในอีกรูปแบบหนึ่ง เมื่ออ่านแล้วได้รับพระพรมากจึงขอนำมาแบ่งปันดังนี้:
บุตรของเราเอ๋ย …??เจ้าอาจจะไม่รู้จักเรา แต่เรารู้จักเจ้าในทุก ๆเรื่อง … สดุดี 139:1?เรารู้เมื่อเจ้านั่งลงและเมื่อเจ้าลุกขึ้น … สดุดี 139:2?เราคุ้นเคยกับทางทั้งสิ้นของเจ้า … สดุดี 139:3?แม้แต่ผมของเจ้าก็ถูกนับไว้แล้วทุกเส้น … มัทธิว 10:29-31?ด้วยว่าเจ้าได้ถูกสร้างขึ้นตามพระฉายาของเรา … ปฐมกาล 1:27?เจ้ามีชีวิต และไหวตัว และเป็นอยู่โดยเรา … กิจการ 17:28?เพราะเจ้าเป็นเชื้อสายของเรา … กิจการ 17:28?เรารู้จักเจ้าก่อนที่เจ้าจะถูกก่อร่างสร้างเป็นตัวตนขึ้นมา … เยเรมีย์ 1:45?เราเลือกเจ้าไว้แล้วตั้งแต่ตอนที่เราวางแผนการเนรมิตสร้างนั้น … เอเฟซัส 1:11-12?เจ้าไม่ได้เกิดมาอย่างผิดพลาด ด้วยว่าวันทั้งหลายของเจ้าก็ถูกจารึกไว้ในสมุดของเรา … สดุดี 139:15-16?เราได้กำหนดเวลาเกิดที่แน่นอนของเจ้า และเขตแดนที่เจ้าจะอาศัยอยู่ … กิจการ 17:26?เจ้าถูกสร้างมาให้แปลกประหลาดอย่างน่ากลัว … สดุดี 139:14?เราได้ทอเจ้าเข้าด้วยกันในครรภ์มารดาของเจ้า … สดุดี 139:13?และเป็นผู้นำเจ้าออกมาครรภ์ในวันที่เจ้าคลอดออกมานั้น … สดุดี 71:6?คนที่ไม่รู้จักเราก็มองภาพเราอย่างผิดเพี้ยนไป … ยอห์น 8:41-44?เราไม่ได้อยู่ห่างไกลและโกรธเคืองเจ้าเลย แต่ได้สำแดงความรักของเราออกมาอย่างสมบูรณ์ … 1 ยอห์น 4:16?และเป็นความปรารถนาของเราที่จะทุ่มเทความรักของเราให้แก่เจ้า … 1 ยอห์น 3:1ด้วยเหตุผลง่าย ๆก็คือ เจ้าเป็นบุตรของเราและเราเป็นบิดาของเจ้า … 1 ยอห์น 3:1?เราให้แก่เจ้าได้มากกว่าที่บิดาของเจ้าบนแผ่นดินโลกจะสามารถให้ได้ … มัทธิว 7:11?เพราะเราเป็นบิดาผู้ดีรอบคอบ … มัทธิว 5:48?ของประทานอันดีทุกอย่างที่เจ้าได้รับนั้นมาจากมือของเรา … ยากอบ 1:17?เพราะเราเป็นผู้จัดเตรียมสำหรับเจ้า และเราจะตอบสนองความต้องการทั้งปวงของเจ้า … มัทธิว 6:31-33?แผนงานของเราที่เรามีไว้สำหรับอนาคตของเจ้าเต็มไปด้วยความหวังใจเสมอ … เยเรมีย์ 29:11?เพราะเราได้รักเจ้าด้วยความรักนิรันดร์ … เยเรมีย์ 31:3 (ยังมีต่อ)
ความคิดของเราที่มีต่อเจ้าก็นัับไม่ถ้วนดุจเดียวกับเม็ดทรายที่ชายทะเล … สดุดี 139:17:18?และเราเปรมปรีดิ์เพราะเจ้าด้วยการร้องเพลง … เศฟันยาห์ 3:17?เราจะไม่หยุดกระทำความดีแก่เจ้า … เยเรมีย์ 32:40?เพราะเจ้าเป็นกรรมสิทธิ์อันมีค่าของเรา … อพยพ 19:5?เราปรารถนาที่จะตั้งเจ้าไว้อย่างมั่นคงด้วยสุดใจของเราและสุดจิตของเรา … เยเรมีย์ 32:41?และเราประสงค์จะบอกสิ่งที่ใหญ่ยิ่งและที่ซ่อนอยู่ให้แก่เจ้า … เยเรมีย์ 33:3?ถ้าเจ้าค้นหาเราด้วยสุดจิตและสุดใจ เจ้าจะพบเรา … เฉลยธรรมบัญญัติ 4:29?จงปีติยินดีในเรา และเราจะให้ตามใจปรารถนาของเจ้า … สดุดี 37:4?เพราะว่าเราเป็นผู้กระทำให้เจ้ามีใจปรารถนาเหล่านั้น … ฟีลิปปี 2:13?เราสามารถกระทำสารพัดมากยิ่งกว่าที่เจ้าจะคิดได้ … เอเฟซัส 3:20?ด้วยว่า เราคือผู้ชูใจที่ยิ่งใหญ่ของเจ้า … 2 เธสะโลนิกา 2:16-17?เราเป็นบิดาผู้ชูใจเจ้าในการทุกข์ยากทั้งสิ้นของเจ้า … 2 โครินธ์ 1:3-4?เมื่อเจ้าจิตใจฟกช้ำ เราอยู่ใกล้เจ้า … สดุดี 34:18?ผู้เลี้ยงแกะอุ้มแกะไปฉันใด เราจะอุ้มเจ้าแนบอกของเราไปฉันนั้น … อิสยาห์ 40:11?จะมีวันหนึ่งที่เราจะเช็ดน้ำตาทุก ๆหยดจากตาของเจ้า … วิวรณ์ 21:3-4?เราจะนำการเจ็บปวดทุกอย่างที่เจ้าต้องทนทุกข์บนแผ่นดินโลกออกไปเสีย … วิวรณ์ 21:3-4?เราเป็นบิดาของเจ้าและเรารักเจ้าเหมือนดังที่เรารักบุตรของเรา คือพระเยซู … ยอห์น 17:23?ด้วยว่าโดยพระเยซู ความรักของเราที่มีต่อเจ้าจึงสำแดงออกมาให้เห็น … ยอห์น 17:26?พระบุตรทรงมีสภาวะเป็นพิมพ์เดียวกันกับเรา … ฮีบรู 1:3?พระองค์เสด็จมาเพื่อสำแดงให้เห็นว่าเราอยู่ฝ่ายเดียวกับเจ้า ไม่ใช่ต่อสู้ขัดขวางเจ้า … โรม 8:31?และเพื่อจะแจ้งให้เจ้าทราบว ่าเรามิได้ถือโทษในการผิดของเจ้า … 2 โครินธ์ 5:18-19?พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์เพื่อว่าเจ้ากับเราจะสามารถคืนดีกันได้ … 2 โครินธ์ 55:18-19?การสิ้นพระชนม์ของพระองค์เป็นการแสดงออกถึงความรักของเราที่มีต่อเจ้าอย่างสูงสุด … 1 ยอห์น 4:10?เรายอมสละสิ่งสารพัดที่เรารักเพื่อเราจะได้รับความรักจากเจ้า … โรม 8:31-32?ถ้าเจ้ารับของประทานแห่งพระบุตรของเราคือพระเยซู เจ้าก็รับเราด้วย … 1 ยอห์น 2:23?และไม่มีสิ่งใดจะสามารถกระทำให้เจ้าขาดจากความรักของเราได้อีก … โรม 8:38-39?กลับบ้านเถิด แล้วเราจะจัดงานฉลองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นในสวรรค์ … ลูกา 15:7
เราเป็นพระบิดาเสมอมา และจะเป็นพระบิดาเสมอไปด้วย … เอเฟซัส 3:14-15?คำถามของเราก็คือ … เจ้าจะยอมเป็นบุตรของเราไหม? … ยอห์น 1:12-13?เรากำลังคอยเจ้าอยู่ … ลูกา 15:11-32??ด้วยรัก,?จากบิดาของเจ้า?พระเจ้า ผู้ทรงฤทธานุภาพ
พระเจ้าได้ประทานพระคัมภีร์ให้เราทุกคนได้อ่าน นั้นคือจดหมายที่พระองค์ได้เขียนถึงมนุษย์ทุกคน..

เด็กชายตาบอด

เด็กชายตาบอด‏
เด็กตาบอดคนหนึ่งนั่งที่ขั้นบันไดของตึกโดยมีหมวกวางหงายไว้ข้างๆ มีป้ายเขียนไว้ข้างตัวว่า “ ผมตาบอด กรุณาช่วยด้วย ” มีเหรียญเพียงสองสามอันในหมวก

ชายคนหนึ่งเดินผ่านมา เขาหยิบเงินสองสามเหรียญจากกระเป๋าแล้วหย่อนลงในหมวก เขาหยิบป้ายข้างเด็กตาบอดมาเขียนที่ด้านหลัง แล้ววางลงที่เดิม เพื่อให้คนเดินผ่านได้เห็นข้อความใหม่บนป้าย ในไม่ช้า…หมวกก็เต็ม ผู้คนมากมายให้เงินแก่เด็กตาบอด บ่ายวันนั้นชายที่เขียนป้ายให้ใหม่กลับมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น เด็กชายจำเสียงฝีเท้าเขาได้ก็ถามขึ้นว่า “ คุณใช่คนที่เขียนป้ายให้ผมใหม่เมื่อเช้าใช่ไหมครับ ” “ คุณเขียนว่าอะไรครับ ”

ชายคนนั้นพูดว่า “ ฉันแค่เขียนความจริง ฉันเขียนสิ่งที่เธอพูดแต่เขียนด้วยคำพูดที่แตกต่าง ” ฉันเขียนว่า “ วันนี้ช่างเป็นวันที่สวยงาม แต่ผมไม่สามารถชื่นชมมันได้ ” ทั้งสองข้อความบอกกล่าวผู้คนว่าเด็กชายนั้นตาบอด ทว่าข้อความแรกเพียงบอกธรรมดาว่าเด็กชายตาบอด ในขณะที่ข้อความหลังบอกผู้คนว่าพวกเขาช่างโชคดีเหลือเกินที่ตาไม่บอด แปลกใจไหมที่ข้อความหลังให้ผลดีกว่า

ข้อสอนใจจากเรื่องนี้ จงขอบคุณในสิ่งที่คุณมี ขอให้มีความคิดสร้างสรรค์ ปฏิรูปจิตใจของคุณ และคิดแตกต่างในแง่บวก
ยามเมื่อชีวิตมีเหตุผลเป็นร้อยให้คุณอยากร้องไห้ จงทำให้ชีวิตดูว่ามีเหตุผลเป็นพันให้คุณยิ้มได้ เผชิญหน้ากับอดีตโดยไม่สลดใจ จัดการกับปัจจุบันอย่างมั่นใจ เตรียมการเพื่ออนาคตโดยไม่หวาดกลัว มีศรัทธาและโยนความหวาดหวั่นทิ้งไป
สิ่งที่งดงามที่สุดคือการได้เห็นคนยิ้มแย้ม และยิ่งงดงามกว่านั้นที่ได้รู้ว่าเราเป็นผู้อยู่เบื้องหลังรอยยิ้มนั้น